Thursday, May 26, 2005

เสียรู้ โง่สุดๆ

คุณเชื่อไหมว่าผมเพิ่งเขียนบทความที่ตั้งใจสุดๆ และยาวอย่างยิ่งเสร็จเรียบร้อย

และเสียมันไปในชั่วพริบตา

พริบตาเดียวที่ผมหารูปมาแปะบทความให้ครบถ้วนก่อนจะกด Publish

ผมเองซึ่งยัง Post รูปไม่เป็นต้องเสียรู้ครั้งยิ่งใหญ่ เมื่อ blog มันขึ้นหน้าใหม่มาเปล่าๆ


ขอโทษ...ผมไม่ได้โง่อย่างที่คุณคิด เพราะผมกด copy บทความเผื่อไว้แล้ว หากมีอะไรเกิดขึ้น

แต่ผมโง่กว่านั้น เมื่อพยายามทำการ post รูป โดยการกด copy อีกครั้งเพื่อนำโค๊ดข้อความที่จำเป็นในการ post รูปมาไว้ในหน้าใหม่

รู้ตัวก็เมื่อสาย จะลงรูปไปทำไม เพราะบทความนั้น ไม่มีวันเรียกกลับมาได้แล้ว



ขอไว้อาลัยให้บทความของผมที่ไม่มีใครรู้เสียแล้วว่ามันมีอยู่จริง

บทความที่ผมตั้งหน้าตั้งตาเขียนมาสามชั่วโมงเต็ม และตรวจทานเสร็จแล้ว


ช่วงนี้ผมงานยุ่งมากๆ บวกกับเครียดๆ อีกต่างหาก งานก็หลุดเบลอๆไปเยอะ
วันนี้กลับมาเขียนบล็อคเพื่อคลายเครียด แต่....เศร้า


ไว้จะมาเขียนบทความที่หายไปใหม่นะครับ บอกไว้ก่อนว่าผมเขียนถึงหนังเรื่อง Hotel Rwanda

6 comments:

tihtra said...

โอ้...ผมก็เพิ่งเขียนจดหมายยาวถึงคุณ แล้วก็หายไปในสุญญากาศ ด้วยความที่ผมไว้วางใจเทคโนโลยีมากถึงขั้น (จากไม่เคยไว้วางใจมาก่อน) ผมก็เลยไม่ได้เซฟเก็บไว้ (ทั้งๆ คิดอยู่แล้วนะว่าจะทำอย่างนั้น)

แล้วมันก็หายไป...หายลิบลับ..ไปกับตา

ผมชอบบทความที่ผมเพิ่งเสร็จมาก ชอบเพราะเป็นเรื่องของผม และเรื่องของบ้านเก่า เป็นเรื่องของเก่าๆ ที่มองจากมุมมองคนใหม่ๆ อย่างผม

บทความที่ผมเขียนแล้วหายไปมีชื่อว่า "จดหมายเปิดผนึกถึงกระต่ายน้อย: เราจะใช้ "อดีต" เพื่อ "ปัจจุบัน" ได้อย่างไร"

ผมก็คงได้แต่ปลง และทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น อายุเข้าวัยเบญจเพสนี้ ของที่รักมักจะหายบ่อยๆ (ขออย่าให้เป็นคนที่่รักเลยแล้วกัน)

ผมคงต้องเรียนรู้อีกมากว่าจะใช้เทคโนโลยีให้เป็น "เครื่องมือ" ในการอยู่บนโลกนี้ได้อย่างไร

ปราชญ์ วิปลาส said...

ก็...ด้วยอดีตแห่งการสูญเสียบทความ ต่อไป ณ.ห้วงก่อนจะถึงห้วงปัจจุบันแห่งการโพสต์บทความและรูป
พึงศึกษาถึงวิธีการให้ถ่องแท้เสียก่อน...
น่าจะเป็นตัวอย่างที่โอเคนะ
www.babbirdbird.blogspot.com

ปราชญ์ วิปลาส said...

ลืมบอกไปครับ ถ้าจะโพสต์รูปพร้อมบทความลงบล็อก ลองไปดูโปรแกรมpicasa ที่ www.picasa.com ผมไม่แน่ใจนะว่าโพสต์ข้อความได้ยาวแค่ไหน แต่คราวก่อนผมโพสต์รูปแล้วค่อยเข้าไปeditข้อความเองที่หลังอะ ลองดูนะ

David Ginola said...

build อารมณ์ให้เขียนใหม่เร็วๆนะครับท่าน

ไว้เดี๋ยวจะรออ่านนะครับ

Anonymous said...

ดีจ้า น้องกระต่ายน้อย

ลองเข้ามาในเวปน้องกระต่ายน้อย แล้วอ่านที่เพ้อถึงบทความที่ไม่มีตัวตน (ไปซะแล้ว) ของน้องกระต่าย เห็นใจค่ะ! เพราะพี่ก็เคยเจอเหตุการณ์เดียวกันมาก่อน...เศร้า
เข้ามาทักทายเฉยๆอ่ะจ้ะเพราะเห็นว่าจะเขียนถึง Hotel Rwanda ถึงแม้ว่าพี่จะไม่ได้อ่านบทความเงาของน้องกระต่าย แต่พี่คิดว่าพี่รู้ความรู้สึกของน้องกระต่ายนะว่าคิดยังไงเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ เพราะมันเป็นหนังที่พี่คิดว่าหดหู่ที่สุดเรื่องนึงในชีวิต ผู้กำกับ Terry George ถนัดมากกับ genre หนัง Drama/crime
ขอแอบแนะวิธีดับอารมณ์หดหู่จาก Hotel Rwanda โดยหยิบเอางาน comedy อย่าง love actually ของ Richard Curtis มาดูต่อกันไป เหมือนอารมณ์กินทุเรียนแล้วต้องดับด้วยมังคุดยังไงยังงั้น เผื่อดู Love Actually แล้วอาจอารมณ์อ่อนไหวเหมือนพี่ชายนายปิ่นซะงั้น

อิ อิ
ทักมายจ้าทักทาย

Anonymous said...

อุปสรรคจะมากับความสำเร็จ เชื่อเรา