ก่อนที่ทุกท่านจะรู้สึกคันเท้าจากชื่อblogไปมากกว่านี้
ต้องขอแนะนำก่อนเล็กน้อยว่าเหตุใดจึงเลือกใช้ชื่อ กระต่ายน้อย
หากท่านใดที่รู้จักผมก็อาจพอทราบที่มาของชื่อ ว่าเกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ในคืนวันที่ผมโดนหักหลังเละเทะด้วยตราบาปที่ศิษย์พี่ที่สุดรักอุตสาหะนำมาฆ่ากัน
....แต่หากไม่รู้จักผมมาก่อน
ก็ขอออกตัวว่าที่เลือกชื่อ กระต่ายน้อยก็เพราะ
....ผมเป็นแค่กระต่าย?
เปล่าครับ ที่จริงแล้วผมเลือกชื่อนี้ด้วยความบริสุทธิใจ ไม่มีเบื้องหลังใดๆ ไม่มีการปกปิดตนเอง
แค่อยากลองให้พวกท่านเรียกผมแบบน่ารักๆเท่านั้น
ลองคิดดูซิว่า จะฟังสบายขนาดไหนถ้ามีคนโพสเถียงกับผมโดยเรียกผมว่าคุณกระต่ายน้อย
"ผมคิดว่าตรรกกะของคุณกระต่ายน้อยยังไม่ถูกนัก โปรดปรับปรุง"
"ความคิดของคุณกระต่ายน้อยยังไม่ครอบคลุมทุกแง่มุมของเรื่องดังกล่าว"
ฟังสบายกว่าชื่อหนุ่มสิบเจ็ดที่บางคนพยายามตั้งให้เป็นไหนๆใช่ไหมล่ะ ท่านปิ่น
อีกเรื่องหนึ่งนอกจากชื่อblogที่อยากเล่าให้ฟัง คือทำไมผมถึงเริ่มเขียนblog
ผมชอบขีดๆเขียนๆมานานพอควร แต่ก็ไม่ถึงกับเป็นผู้มีฝีมือในการขีดเขียน
ส่วนมากจะคิดไม่ตกว่าจะเขียนอะไรดี และก็กลัวว่าเขียนไปแล้วมันจะไม่จบ หรือมันจะห่วยเกิน
แต่หลังจากที่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมblogของหลายๆท่านแล้วรู้สึกประทับใจ ก็เลยอยากมีกับเขาบ้าง
ผมเลยลงมือเปิดblogของตนเองทันที
ความทันทีครั้งนั้นขาดความเข้าทีอย่างแรง เพราะเปิดเสร็จปุ๊ปชื่อblogชื่อหนึ่งก็หายไปจากสารบบโดยเปล่าประโยชน์ ก็ผมเล่นซัดซะชื่อจริง นามสกุลจริง อย่างนี้น้องตั้กก็คงไม่ต้องเสียเวลาตามหาผู้ร้ายใจโฉดโพสรูปลับเลยล่ะซิ (แค่วลีเปรียบเทียบ อย่าเข้าใจผิด blogผมเป็นblogวิชาการ)
ถึงอย่างไรผมก็ยังไม่ละความพยายาม......
และหลังจากที่เตรียมเปิดblogอีกที่หนึ่งแล้วก็อ้ำอึ้งไม่รู้จะเขียนอะไรมานาน ในที่สุดความอ้ำอึ้งของผมก็จบลงแบบมีคาตาไลต์
ผมโดนมัดมือชกแบบไม่รู้ตัว.....แบบข้ามโลกซะด้วย
ไม่ใช่เลยครับ ไม่ใช่เลยจริงจริ้งจอร์จ ความจริงมีผู้หวังดีแนะทางสว่างให้กับผมต่างหาก หลังจากคำแนะนำของเขาทำให้ผมมีวันนี้(ที่ดีกว่า)มาแล้ว ก็ต้องขอขอบคุณท่านผู้สอนสั่งความรู้"ทางโลก"ให้กับผมผู้นั้นมา ณ ที่นี้ด้วย
ผมชอบการที่เทคโนโลยีทำให้คนที่มีอะไรคล้ายกันหลายๆคนได้มาพบกัน
มันคงเป็นสวรรค์สำหรับคนที่ชอบแลกเปลี่ยนความคิดเห็นโดยเฉพาะเหล่านักวิชาการรุ่นใหม่ทั้งหลาย
เป็นที่ๆจะทำให้เราได้มีโอกาสปลดตัวเองออกจากความหมกหมุ่นในหัวสมอง แล้วลองฟังคนอื่นบ้าง
เป็นที่ๆจะช่วยให้เราได้เรียนรู้และรับฟังคำติชมจากยอดฝีมือท่านอื่นๆ
หากเหล่าคนในวงวิชาการไม่ขวนขวายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเพื่อสร้างปัญญาแล้ว ใครอื่นเล่าในแผ่นดินจะเหมาะสม
ด้วยเห็นแล้วว่ามันมีข้อดีที่ปฏิเสธไม่ลงเช่นนี้...จึงขอฝากเนื้อฝากตัวเป็นศิษย์กับทุกท่าน
หากมีหลุดความไร้เดียงสาออกไปบ้างก็ขออย่าโกรธเคือง....ผมเองยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมาย
ขอให้ทุกท่านโปรดชี้แนะ "กระต่ายน้อย" คนนี้ด้วย
Saturday, May 07, 2005
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
7 comments:
แล้วเสือหนุ่มก็ปรากฎตัว
ปรากฎตัวในคราบกระต่ายน้อย !!!
ตอนที่เจ้าของ blog เอ่ยชื่อ blog ตัวเองให้ผมฟัง นอกจากผมจะระเบิดเสียงหัวเราะลั่นห้องแล้ว ยังรู้สึกคันขึ้นมาทันทีเลยครับ
คันเท้าเหมือนที่คุณกระต่ายน้อยว่าไว้ (ไม่รู้จะทนเรียกชื่อนี้ไปได้อีกกี่ครั้ง)และผมมั่นใจว่า corgiman คงรู้สึกเช่นเดียวกัน
ก็ขอเตือนสาวๆแถวนี้ไว้เลยนะครับ ว่าอย่าได้ใหลหลงเคลิบเคลิ้มไปกับวาทกรรม(น่ารักๆ)ของคุณกระต่ายน้อย (กูทนชื่อนี้ไม่ได้แล้วว่ะ) มากมายนัก เพราะเสือที่น่ากลัวดุร้ายที่สุดคือเสือที่แฝงมาในคราบกระต่ายขาวนี่แหละครับ
แน่จริง ห้ามเอารูปตัวเองมาโพสต์นะโว้ย
แต่สำหรับคนที่ตามลิงก์เข้ามา โดยที่ไม่ได้รู้จักเจ้าของ blog เป็นการส่วนตัว ผม ในฐานะผู้ชักชวนเสือน้อยรายนี้เข้าสู่วงการ ขอแนะนำเจ้าตัวสั้นๆ ว่า
ชีวิตในฐานะนักวิชาการแถวท่าพระจันทร์ของผม ตลอดห้าปีครึ่งที่ผ่านมา มีประสบการณ์ที่ผมประทับใจที่สุดสองอย่าง
อย่างแรกคือได้มองซ้ายมองขวากับเสือใหญ่ตัวนึง(เป็นอาจารย์ของเสือน้อยรายนี้ และเป็นเพื่อนรักผม) ทั้งผ่านทางหน้ากระดาษ บทสนทนา ที่สนุกที่สุดคือเปิดวิชาใหม่ มองซ้ายมองขวา สวิงกิ้งทางปัญญากันเห็นๆ ในห้องเรียน แบบระเบียบรัตน์คงรับม่ายด้ายยยย
(ตอนนี้หัวหน้ากลุ่มเสือคนนี้เพิ่งไปเริ่มจีบสาวอยู่แถวออสเตรเลีย ไม่ยอมเขียนบทความ ไม่ยอมเขียน blog เฝ้ารอให้ corgiman เปิดเมมให้อย่างเดียว ใจมันจะขาดแล้ว)
และอย่างที่สองคือ ได้รู้จัก สนิทสนม แลกเปลี่ยนความคิด และเฝ้ามองพัฒนาการของชีวิตและความคิดของเสือน้อยตัวนี้แหละครับ ซึ่งเส้นทางของเขาน่าตื่นเต้นเป็นที่สุด ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต
ผมรู้จักเสือน้อยรายนี้มาตั้งแต่เขาเข้าปีหนึ่ง แม้ผมเป็นอาจารย์แต่เราก็คบหาแบบเพื่อนพี่น้องเรื่อยมา จนเสือน้อยรายนี้จบปริญาตรี แล้วเข้าเป็นอาจารย์ใหม่ล่าสุดในคณะผม
นี่เป็นเพื่อนรุ่นศิษย์ที่ผมประทับใจที่สุดในชีวิตอาจารย์ของผม
ท่องโลกของกระต่ายน้อยกันเอาเองนะครับ
ปริเยศ โปรดยั้งมือด้วย (ฮา)
เอาเข้าไป เปิดโปงให้หมด..
อย่าให้มันล่าเหยื่อได้..หนักเข้าไว้น้องปิ่น
แต่ถ้าพรุ่งนี้ปืนแพ้หงส์คาถิ่นละก็ มีของพิเศษให้กระต่ายน้อยนะ..อิอิ
อ้อ..(เสือในคราบ)กระต่ายน้อย ไปตั้งค่าใหม่ให้ คนคอมเม้นต์ในนาม annonymous ได้ด้วยสิครับ เผื่อจะมีเหยื่อมาโพสต์บ้าง
Hello!
If you see his face, you will absolutely think he is "innnocent rabbit"....
But if you step closer, you may understand the phrase "Nothing we can proof with eyes" 5555
See u ja!
กระต่ายน้อยมัวแต่ไปเล็มหญ้า(อ่อน)อยู่ครับ
เหย ผมไม่ได้ไปเล็มหญ้าอ่อนอย่างที่คุณปิ่นใสร้ายนะ ตอนนี้มันยุ่งๆเลยยังไม่ว่างเท่าไหร่ ขอสักแป๊ปนะคร้าบ
ปริเยศ แวะมาเยี่ยมครับ
ในที่สุดก็ถึงบางอ้อว่า พิน ปรเมศ คือใคร และ กระต่ายน้อยคือใคร หลังจากไม่เข้าใจมาเป็นปี ขอฝากตัวเป็นผู้ฟังการแลกเปลี่ยนความคิดดีๆของอาจารย์ทั้งหลายด้วยคนนึงนะคะ
Post a Comment