แต่ก็อย่างที่ทราบกันนะครับ...ว่ามันได้กลายเป็นวิญญาณแห่งโลกไซเบอร์สเปซไปแล้ว
และตัวผมเองก็ยังไม่ได้ทำพิธีฟื้นคืนชีพให้มันเสียที
จนมาถึงวันนี้ ผมได้ไปดูหนังดีเรื่องหนึ่งมา
ดีจนผมเองรู้สึกว่าจะไม่เขียนถึงไม่ได้
...ก็เลยขอเลื่อนพิธีปลุกวิญญาณ Hotel Rwanda ไปก่อน
ไว้ให้มันเฮี้ยนขึ้นมาหลอกหลอนผมอีกซักพักแล้วจะเขียนเน้อ
........................................
มหาลัยฯเหมืองแร่ เป็นเรื่องที่สร้างจากนิยายชีวิตของคุณอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ปีพ.ศ.2534
นิยายชีวิตเรื่องนี้ไม่ใช่นิยายธรรมดา
...แต่เป็นนิยายที่ถ่ายทอดชีวิตจริงของคุณอาจินต์เอง
จากการที่ถูกรีไทรฺจากคณะวิศวะ สำนักสามย่าน ในตอนปีสอง
...จนระเห็จระเหินตัวเองไปเรียนรู้ชีวิตอยู่ที่เหมืองแร่เล็กๆในจังหวัดพังงา
ตลอดเวลาประมาณสองชั่วโมงที่ผมได้ดูหนังเรื่องนี้นั้น
บอกตรงๆเลยว่ารู้สึกอินมากๆ
คงเป็นเพราะผมเองก็เคยได้ไปอยู่ในเหมืองแร่ที่มีลักษณะคล้ายๆกันมาก่อน
อย่าเพิ่งเข้าใจผิด ผมเองไม่ได้ถูกรีไทร์แล้วระเห็จไปทำงานแบบคุณอาจินต์
แต่ผมได้ไปเรียนรู้ชีวิตในชนบทในวิชาพัมนาชนบทไทยในช่วงที่ผมเป็นนักศึกษา
และหมู่บ้านที่ผมไปอยู่ก็ดันเป็นเหมืองเก่าในภาคใต้เหมือนกัน
ฉากหลายๆฉากในหนังที่ได้เห็นเลยละม้ายคล้ายคลึงกับภาพในอดีตที่ผมประสบมายังไงยังงั้น
........................................
เข้าเรื่องหนังดีกว่า
สิ่งที่ผมประทับใจกับหนังเรื่องนี้มากก็คือ...ความมีชีวิตของมัน
หนังหลายๆเรื่องคุณอาจจะดูแล้วสนุก ตื่นเต้น
แต่มันไม่มีความหมายแห่งชีวิตอยู่ในนั้น
แต่หนังเรื่องนี้เปี่ยมไปด้วยความหมายแห่งชีวิต
ความหมายที่หลายๆคนก็เคยได้มีผ่านมาบ้าง
แต่บางครั้งเราเองก็ไม่ได้ฉุกคิด หรือมัวแต่ยุ่งเกินไปที่จะมองมัน
มีหลายครั้งที่ผมคิดไปว่า หากผมไปไม่ได้ถึงความฝันที่ยิ่งใหญ่ ที่เต็มไปด้วยความชื่นชมจากคนรอบข้าง ตัวผมเองคงจะล้มเหลว (ผมขอเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา อย่าว่ากันเลย)
ผมลืมไปว่าสิ่งสำคัญยิ่งของชีวิตล้วนอยู่รอบกายเราอยู่แล้ว
ความนับถือที่มีให้กับผู้อื่น ความซื่อสัตย์ ความกล้า มิตรภาพ สิ่งเหล่านี้ต่างหากคือสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
อาจินต์เองก็คงเช่นกัน
จากความลัมเหลวในรั้วมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศ
เขาออกเดินทางไปสูเหมืองแร่ด้วยสภาพของคนที่สิ้นหวัง คนที่รู้สึกว่าตัวเองได้สูญเสียความฝันอันยิ่งใหญ่ไปเสียแล้ว
แต่สิ่งที่เขาได้พบในเหมืองแร่นั้นกลับทำให้ชีวิตเขาเริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง
....มันดึงเอาความหมายแห่งชีวิตกลับมาให้เขา
ตัวหนังเองก็สื่อถึงแค่วัตรปฎิบัติของคนงานเหมืองแร่ธรรมดาๆกับเจ้านายของเขา
แต่สิ่งที่ได้พบในนั้นมันกลับทำให้ผู้ได้รับรู้มีความสุข
ผมชื่นชอบนายฝรั่งของเหมืองแร่มาก
...เพราะเขาทำให้ผมได้เห็นภาพของผู้นำที่เข้าอกเข้าใจลูกน้อง ผู้นำที่ใจกว้างและกล้าจะมีเมตตาอย่างไม่จำกัด และซื้อใจคนมากมายได้ด้วยสิ่งนั้น
ผมชอบพี่จอน นายหัวใหญ่ของเรื่อขุดแร่
...เพราะเขาสามารถดึงภาพของรุ่นพี่มาดนักเลง แต่เปี่ยมไปด้วยมิตรภาพและความจริงใจให้กับคนอื่นๆ คนอย่างเขาเป็นพวกที่เห็น ความดีในตัวของคนที่ตัวเองคิดว่าเป็นศัตรูได้ง่ายๆ
ผมชอบคุณลุงที่คอยคุยกับอาจินต์ทุกคืน โดยมีแกงจืดที่เย็นชืดเป็นกับข้าวให้เสมอ
...เพราะความมีนำใจของแก และแง่มุมชีวิตที่สุดแสนจะคมคายที่แกนำเสนอ
และผมก็ชื่นชมคุณอาจินต์ในเรื่องนี้เอง เพราะถ้าไม่ใช่มุมมองของแกแล้ว จะมีใครฉุกคิดและดึงเอาสิ่งเหล่านี้ออกมานำเสนอได้อีก
นอกจากนี้ ยังมีคนอีกมากมายในเรื่องนี้ที่ความเป็นตัวตนของเขาเองทำให้ผมชื่นชอบ และมีความสุขเวลาที่ได้รับรู้เรื่องราวชีวิตของเขาเหล่านั้น
ชีวิตของคนงานเหมืองที่มองผ่านๆไปแล้วก็ไม่มีอะไรน่าสนใจ กลับแฝงไว้ด้วยความหมายแห่งชีวิตที่มากมาย
ตัวผมเองคงต้องย้อนกลับมาดูตนเองบ้างเหมือนกันแล้วล่ะ
ชีวิตที่วุ่นวายจนไม่ค่อยจะมีเวลามามองหรือมาคิดเรื่องอะไรในมุมเล็กๆของชีวิต คงเป็นรูปแบบชีวิตที่คนในปัจจุบันคุ้นเคยกันดี
แต่เพราะเรามัวอยู่แต่กับความวุ่นวายหรือเปล่า เราเลยมองข้ามสิ่งสวยงามที่อยู่กับตัวเราเองอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว
หากเราค้นพบสิ่งที่สวยงามนั้นแล้ว ชีวิตคงจะมีค่าและมีความหมายได้โดยไม่ต้องพึ่งเกียรติยศ ชื่อเสียง และเงินทอง
......................................
เป็นโอกาสดีจริงๆที่ได้ไปดูหนังแบบนี้ในช่วงที่ผมต้องเตรียมตัวนำเสนอตัวเองเพื่อให้ได้รับการสนับสนุนเงินทองไปเรียนต่อ (ทุน)
ผมเองค่อนข้างยุ่งจนไม่มีเวลามาคิดหาคำนำเสนอตัวเองที่สวยหรูทั้งหลาย (และก็ขี้เกียจคิดพอควร อยากตอบอะไรที่เป็นตัวเองมากกว่า)
การได้รู้ว่าความสวยงามของชีวิตมันก็อยู่กับตัวเราเองอยูแล้วมันก็ทำให้สบายใจ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใด จะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลวก็ตาม ว่าถึงอย่างไรเราก็ยังเป็นเรา ชีวิตก็ยังมีความหมาย ความสวยงามก็ยังมีให้เรามองไปพบมันได้อยู่เสมอ
ต้องขอโทษเพื่อนๆที่อยู่ต่างแดนและคงไม่มีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วย ที่การเล่ามาครั้งนี่อาจทำให้ท่านเกิดกิเลสที่ไม่บรรลุ
ไว้ท่านกลับมาเมืองไทยกันแล้วก็อย่าลืมหามาดูกันให้ได้นะครับ