Tuesday, June 14, 2005

เฮ้อ ชะตากรรม หนอ ชะตากรรม

เฮ้อ ชะตากรรมหนอ ชะตากรรม

ไม่อยากเชื่อเลยว่าเวลาสี่ปีผ่านไป ผมจะต้องมาพบเจอเรื่องราวที่คล้ายคลึงกัน
....เรื่องราวที่เศร้าปนขำ แบบหัวเราะหึๆในลำคอได้พร้อมน้ำตาคลอเบ้า

..............................................

ณ ช่วงเวลาใกล้เคียงกันกับตอนนี้เมื่อสี่ปีก่อน
...ในบ่ายวันที่ท้องฟ้าสดใส เหมือนจะเป็นใจให้กับความรักของคนทุกคน

ผมกำลังอยู่กับเธอคนนั้น เธอคนที่ผมเฝ้าใฝ่ฝันถึงมานาน
ความฝันของรักแรกในรั้วมหาวิทยาลัยของผมกำลังเป็นจริง!!

ผมและเธอเริ่มความสัมพันธ์อันดีมาเป็นระยะเวลาพอควรแล้ว
และกำลังก้าวผ่านเส้นแบ่งของคำว่าเพื่อนไปสู่อะไรที่มากกว่านั้น

แต่แล้วในบ่ายวันนั้นเอง ผมก็ต้องได้ยินอะไรที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง
เธอคนนั้นบอกกับผมว่า

"....เราว่าเราก็ชอบเธอนะ แต่ว่าตอนนี้เรายังไม่พร้อม เราอยากให้หยุดความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเธอไว้เพียงแค่นี้"

ผมฟังแล้วอึ้ง คิดอะไรไม่ออกไปนานหลายวัน กลืนไม่เข้า คลายไม่ออก กินข้าวไม่ลง
....แต่ในใจก็ยังสู้ต่อ หวังว่าวันหนึ่งเธอนั้นจะพร้อม

จนได้มาเรียนรู้ในอีกหลายเดือนต่อมาว่า ที่เธอบอกว่าไม่พร้อมนั้น หมายถึงไม่พร้อมสำหรับผม แต่กับอีกคนหนึ่งเธอกลับพร้อมแล้ว

..................................................

สี่ปีผ่านไป ไม่อยากเชื่อว่าจะต้องได้ยินคำกล่าวที่คล้ายคลึงกันอีกครั้ง ในสถานที่ที่ห่างกันไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตร

".....กรรมการเห็นว่าคุณตอบคำถามได้ดี และคุณสมบัติคุณก็ดี แต่มันมีปัจจัยอย่างอื่นที่ทำให้คุณไม่ได้ทุน"

มารับรู้ทีหลังว่า ปัจจัยดังกล่าวเป็นปัจจัยที่ตัวผมเองไม่อาจทำอะไรได้จริงๆ เพราะไม่เกี่ยวอะไรกับตัวผม

ความรู้สึกกลืนไม่เข้า คลายไม่ออก กินข้าวไม่ลง กลับมาอีกครั้ง

โชคยังดีที่ครานี้มันมาไม่นาน เพียงแค่สองชั่วยามก็ผ่านไป
เทียบกับคราวก่อนที่ความรู้สึกดังกล่าวมาเยือนนานนับเดือนแล้ว ก็ถือว่าผมทำใจรับสภาพได้เก่งกว่าเดิมมาก

............................................

บางครั้งผมก็รู้สึกแปลกๆกับเหตุการณ์ทั้งสองอย่างข้างต้น เพราะมันมีอะไรบางอย่างที่คล้ายกันอยู่ภายใน

ทั้งสองเหตุการณ์นำมาซึ่งความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย

มันเหมือนกับ AC Milan ที่ไม่ได้แชมป์เพราะความโชคดีสุดๆของทีมขวัญใจชาวเมมทั่วโลก
และมันก็เหมือนกับคนที่ทำอะไรได้ดี แต่ไม่เคยดีพอจะได้อะไร

สิ่งที่เหมือนกันกว่านั้นคือ ความตลกเศร้าของชะตากรรม

บางครั้งชะตากรรมที่ผมได้พบก็ทำให้ผมรู้สึกว่าโชคดีเหลือเกินที่ได้เกิดมา
แต่บางครั้งชะตากรรมก็ทำให้ผมต้องพบกับความเศร้าแบบงงงง ทำตัวไม่ถูก

แต่มันก็เป็นสัจธรรมของโลกมนุษย์ที่ทุกคนจะต้องเจอ

16 comments:

Anonymous said...

คุณเป็นคนเก่งมากๆ.... เรื่องทุนแม้ทุนที่ทรงเกียรติ นั้นคุณจะไม่ได้ แต่คุณยังมีโอกาสที่จะได้ทุนไปเรียนต่อระดับปริญญาเอกอย่างแน่นอน...

นักวิชาการของไทยและคนเก่งๆของไทยจำนวนมากไม่ได้ทุนอานันทมหิดล ยังสร้างสรรค์ผลงานวิชาการอย่างมากมายและได้รับการยกย่องยอมรับในสังคมอย่างสูง อาทิเช่น ดร.อัมมาร ,ดร.ผาสุก หรือแม้แต่สหายรุ่นพี่ของคุณ ปิ่น ปรเมศวร์ ซึ่งผมเองยังนับถือปิ่นมากกว่าคนได้รับทุนอานันท์ฯ สาขาเศรษฐศาสตร์ อีกมากมาย

ซึ่งบรรทัดนี้บอกตรงๆว่าในสายตาผม ไม่ค่อยเห็นว่าทุนอานันท์ฯ สาขาเศรษฐศาสตร์ จะเก่งไปกว่าเพื่อนผมที่จุฬาฯคนอื่นๆเลย อย่าลืมว่าคณะเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ มีคะแนนเอนทรานซ์สูงสุดทุกปีและถ้าใครได้มาเรียนในระดับปริญญาตรีที่จุฬาฯ จะทราบเองว่ามีปิศาจหรือคนที่เก่งๆจริงอยู่มากเพียงใด...คนพวกนี้ยังสามารถไปเอาทุนอื่นๆ เช่นทุนIMFหรือทุนของมหาวิทยาลัยนั้นไปเรียน ดังเพื่อนร่วมรุ่นของผมคนหนึ่งที่จุฬาฯ ขอทุนของ ม. Minnesota ไปเรียนในระดับปริญญาเอก และยังมีว่าที่นักวิชาการทางเศรษฐศาสตร์ที่เก่งมากๆ อย่าง คุณตี๋ สหายของคุณBF Pinkerton นั่นได้รับทุน ม.หอการค้าไป แต่สร้างชื่อเสียงความเก่งกาจใน ม.ชิคาโกค่อนข้างมาก

ในอนาคตจะมีนักวิชาการเศรษฐศาสตร์ที่เก่งๆ อย่าง ดร.กฤษณ์เลิศ(รุ่นพี่ผมที่จุฬาฯ) ทุนIMFปัจจุบันเป็น อ.ที่ซานดิเอโก และสารพัด ดร.และว่าที่ดร.ทางเศรษฐศาสตร์ ที่ผมได้รับทราบความเก่งกาจเป็นการส่วนตัวและได้ยินชื่อเสียงคำเล่าลือจากคนอื่นๆ คนพวกนี้ไม่ได้รับทุนอานันท์ฯไม่ว่าจะเพราะเหตุผลใด แต่ผลงานวิชาการในอนาคตของเขาจะเป็นเครื่องการันตีเขาเองในเส้นทางนักวิชาการหรือเส้นทางอื่นๆ ไม่ใช่ชื่อและที่มา ของทุนการศึกษา

ผลงานทางวิชาการและองค์ความรู้ที่คุณจะให้แก่สังคมในอนาคต รวมทั้งผลิตและสร้างสรรค์ลูกศิษย์ตลอดจนสร้าง ว่าที่นักวิชาการรุ่นใหม่ๆที่มีจิตสำนักแบบคุณและสหายรุ่นพี่คุณอย่างปิ่น เป็นเรื่องสำคัญกว่าครับ และยิ่งสืบสานอุดมการณ์ของ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ตามเจตนารมย์ของ รัฐบุรุษอาวุโสดร.ปรีดี และ ดร.ป๋วย ได้เท่ากับว่าคุณประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว

Etat de droit said...

พึ่งทราบจากคุณปริเยศนี่เองว่าทุนที่คุณกระต่ายพลาดไปเป็นทุนอานันทมหิดล

เสียใจได้แต่อย่าถอดใจครับ

ผมคิดว่ามันสมองและวุฒิภาวะระดับคุณกระต่ายย่อมทราบดีว่า ทุนอานันท์ฯหรือทุนอื่นไม่ได้เป้นตัวชี้วัดความสำเร็จหรือความเก่งหรือการยอมรับนับถือจากคนอื่นๆ

ตัวอย่างดาษดื่นที่คนไม่ใช่ทุนอานันทมหิดลกลับเป็นนักวิชาการที่ดี

ตัวอย่างดาษดื่นอีกเช่นกันที่คนรับทุนอานันทมหิดลกลับเป็นที่ปรึกษากฏหมายที่ช่วยคนต่างชาติสูบเลือดชาวไทย (ทั้งๆที่เค้าบอกว่าจะกลับมาช่วยประเทศ)

ผมว่าระดับคุณกระต่ายไม่น่ามีปัญหาในการหาทุนอื่นๆ

ทุนมหาวิทยาลัยเราเอง หรือ ทุนต่างประเทศอื่นๆ มีอีกเยอะ ไม่เกินฝีมือคุณกระต่ายเป็นแน่

เอาเข้าจริง มันอาจเป็นชะตาฟ้าลิขิตที่ให้คุณกระต่ายไปเรียนต่อด้วยทุนอื่น หรือปีอื่น

ถ้าเป็นผมนะ ผมจะคิดว่า "กูไม่ได้ไปปีนี้ ไม่เป็นไร ปีนี้กูจะได้อยู่กะสาวที่กูรักอีกปี" หรือ "กูไม่ได้ไปปีนี้ไม่เป็นไร เพราะ ปีนี้นักเรียนในเมืองที่เราจะไปไม่ค่อยงาม ปีหน้ากูได้ไปอาจเจอสาวงามก็เป็นได้"

ทุนอานัทมหิดลแล้วเป็นนักวิชาการที่ดี ผมว่ามีไม่มากนะ แสดงว่า ทุนนี้ไม่เกี่ยวกะความเป็นนักวิชาการที่ดี จริงอยู่ที่มันเป็นเกียรติยศบางอย่าง แต่ผมว่าระดับคุณกระต่ายแล้วน่าจะรู้ว่ามันก้แค่เสื้อผ้าสวยๆเท่านั้น

ผมมั่นใจ (โดยไม่มีเหตุผล แต่ใช่เซนส์ล้วนๆ) ว่า อย่างไรเสียคุณกระต่ายก็ได้ไปเรียนต่อในเร็ววันนี้แน่ และจะกลับมาเป็นนักวิชาการที่ดีต่อไป

ถ้ามีโอกาส เรามาหาอะไรทำมันๆกันดีกว่า (ทั้งโหมดสาระ และโหมดบันเทิง)

David Ginola said...

From one of my favorite songs:

'Living means taking chances
But they're worth taking.
Loving might be a mistake
But it's worth making...'

You've done your best in what you believe in and you've taken your chances, and to me, that's what a good life is all about.

I'm really sorry that you didn't get this scholarship as you and we all wished although I honestly think you deserve it not less than any other Anandhamahidol scholars in the past.

Anyway, with your spirits, beliefs, determination and wisdom, I'm sure you'll get some other scholarship soon and you'll go on to become a great professor.

Like khun Pariyed said, what you do and contribute to society in the future, as well as what you teach and instill in your students, are much more important and more meaningful than any scholarship could offer.

I may not be very close to you, but I can say that I'm very proud and very glad to have a senior like you to look upon and learn from na krab, no matter you get the scholarship or not.

felice farfalla said...

I believe that everything happens for a reason.
So, that it happened to you must mean something.
It may lead you to a different life :)

ratioscripta said...

คุณกระต่ายฯ ยังดีที่ได้มีโอกาสเข้าร่วมแสดงความสามารถในการขอรับทุนสูงศักดิ์นี้

ได้ตอบคำถามจากความคิดอันอิสระ และบริสุทธิ์

ได้แสดงความคิด ทัศนคติ และพลังให้กรรมการได้รับรู้

ไม่มีอะไรต้องเสียใจกับตัวเอง

เพราะมีโอกาสทำ และได้ทำเต็มที่แล้ว

ต่างจากอีกหลายคน

แม้แต่โอกาสที่จะได้แสดงความรู้ความสามารถ

แม้แต่โอกาสที่จะเป็นหนึ่งในการคัดเลือก

ยังไม่มี...

คนระดับคุณ ท้อและเสียใจนานไม่ได้ครับ

มีหลายคนรอและฝากความหวังกับคุณอยู่

Anonymous said...

ชีวิตคือการต่อสู้ ศัตรูคือยาชูกำลัง
อปุสรรคคือหนทางแห่งความสำเร็จอันดี
- พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ

สู้เค๊านะครับ คุณกระต่ายน้อย

Steelers(钢人) said...

มาให้กำลังใจครับ และก็ขอให้ได้ไปเรียนต่อสมใจ

pin poramet said...
This comment has been removed by a blog administrator.
Anonymous said...

เสียใจด้วยครับ แต่ผมเห็นด้วยกับความเห็นของหลายท่าน คุณกระต่าย จะต้องมีโอกาสที่ได้แสดงความเก่งกาจอีกมากมายฯ ถ้าผมเป็นคุณ ผมก็ต้องถือว่าเป็นเกียรติของชีวิตอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสได้เข้ารับการสัมภาษณ์ในทุนนี้แล้วละครับ เสียอะไรก็เสียได้ แต่อย่าเสียกำลังใจแล้วกันครับ

Anonymous said...

ทุนการศึกษาก็เหมือนผู้หญิง...
ใช่ว่าหล่อ รวยแล้วจะจีบติด
ใช่ว่าเก่ง เฮงแล้วจะได้

ปัจจัยมันเยอะมาก...

วันนี้คุณพลาดสาวงามไปหนึ่งคน

แต่มหาลัยคุณ ยังมีอีกพอสมควร (ทั้งทุน ทั้งสาวงาม)

รออีกแป๊บ

ผมว่า

Anonymous said...

อะไรก็เกิดขึ้นได้ กับทุนอานันทมหิดล
ภาษาไม่ผ่าน ก็ได้
เรียนนานเป็นสิบปี ก็ยังส่งไปเรียนได้
ปีหน้า ถ้าอายุยังไม่ถึง 30 (หรือ 25 หว่า) ก็ลองยื่นใหม่สิครับ
สำหรับแผนกอักษรศาสตร์นั้น ยื่นได้เรื่อย
และแผนกธรรมศาสตร์ ก็น่าจะเป็นเช่นนั้นครับ
แม้ไม่รู้จักกัน แต่เอาใจช่วยครับ

Anonymous said...

ครั้งที่แล้ว post ไม่ติดเลยขอใหม่นะครับ

ผมเข้าใจความรู้สึกของกระต่ายน้อยอย่างดียิ่งครับ ... หวังว่าจะยังไม่ท้อใจนะครับ

... เวลาเรามองอะไรย้อนหลังแล้วบางทีก็รู้สึกขำครับว่าทำไมเราต้องทุรนทุรายกับบางสิ่งบางอย่างขนาดนั้น

ไม่แน่ในอนาคตเราอาจจะรู้สึกขอบคุณคณะกรรมการนะครับที่ไม่เลือกเรา ... เหมือนดังเช่นเราอาจจะรู้สึกขอบคุณสาวในปีหนึ่ง ที่ทำให้เราได้เจอกับสาวในปีสี่เป็นต้นนะครับ

kasab71 said...

ชะตากรรมก็เป็นแบบนี้ครับ แต่ขอให้อย่าท้อแท้ สู้ต่อไป

ผมเองก็ผิดหวังมามาก เรียกว่า ผิดหวังมากกว่าสมหวัง แต่ผมคิดอีกทีว่ายังมีเรื่องอื่นๆของผม ที่ยังโชคดีกว่าหลายๆคนที่ไม่มีโอกาส คิดๆดูก็อาจเป็นการปลอบใจตัวเองได้ แต่มันก็ถูกต้องอย่างที่คิดไว้จริงๆ

เชื่อว่า คุณกระต่ายน้อยเก่งอยู่แล้ว พลาดก็พยายามใหม่ ตราบใดที่ยังมีแรง

ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอยนะ

kickoman said...

เอ้า กระต่ายน้อย สู้ๆ

คนเราพลาดหวังกันได้ แต่ขออย่าให้หมดหวังแล้วกัน (ลอกคนข้างบนมา) ขอให้ประสบการณ์ครั้งนี้เป็นกำลังใจให้สู้ต่อไปนะครับ

Anonymous said...

สู้ๆนะคะอาจารย์ แต่อาจารย์ไม่ได้ทุนไปก็ดีแล้วล่ะค่ะ จะได้สอนที่นี่ต่อไงคะ ยังไงก็อย่ายอมแพ้นะคะ

Anonymous said...

ก็อย่างที่อาจารย์บอกนั่นแหละคะ
ว่าคนเราไม่จำเป็นจะต้องประสบความสำเร็จในด้านต่างๆเสมอไป
ขอเพียงเรารู้ตัวว่าเราทำอะไรไปเพื่ออะไรเพื่อสิ่งไหนก็พอ
อาจารย์อาจจะพลาดครั้งนี้แต่ครั้งหน้าอาจารย์อาจจะเป็นผู้ชนะก้ได้ใครจะไปรู้
สู้ๆๆสู้ตายนะคะ
เป็นกำลังใจให้คนที่ตั้งใจอย่างอาจารย์คะ