Wednesday, June 28, 2006

นึกถึงวันเก่าๆกับชุมนุมรักบี้

เมื่อวานนี้ได้ร่วมงานเลี้ยงของชุมนุมรักบี้ ที่จัดขึ้นในชื่องาน “โดมหนุ่ม-โดมชรา”

งานเริ่มในช่วงเย็นโดยเริ่มจากการแข่งขันรักบี้ระหว่างศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบัน แล้วจึงต่อด้วยงานเลี้ยงไปจนถึงเที่ยงคืน

ตัวผมเองได้ลงไปแข่งรักบี้แป๊ปนึง เพราะตอนแรกๆคนมันน้อย แต่ด้วยกำลังอันน้อยนิดก็ขอบายออกมาในเวลาอันสั้น ทิ้งให้เพื่อนๆพี่ๆลุยประชันกำลังกับรุ่นน้องกันต่อไปอย่างสุดมัน แหม่ เพื่อนๆรุ่นเดียวกันกับผมตั้งหลายคนยังฟิตกันเต็มที่ พลังล้นเหลือ อัดกันกับน้องๆมันมาก

ผลการแข่งคือ โดมชราพ่ายไปอย่างเฉียดฉิว หลังจากน้องๆเล่นเอาชุดรวมดาราปัจจุบันลงมาทำแต้มแซงในครึ่งหลัง

ตอนนี้ชุมนุมรักบี้ของธรรมศาสตร์ได้โตขึ้นมากเมื่อเทียบกับตอนที่ผมอยู่ ซึ่งมีผู้เล่นอยู่เกือบไม่พอแข่ง ปัจจุบันมีผู้เล่นจนเกือบแบ่งได้สองทีม ทั้งฝีมือแต่ละคนก็เข้าขั้นเทพกันทั้งนั้น ติดทีมชาติกันถ้วนหน้า

แต่ก็นะ ผมเองยังรู้สึกว่าตอนที่ผมอยู่เนี่ย ชุมนุมรักบี้เป็นชุมนุมที่สนุกสนานมากๆ เพราะเป็นแหล่งรวมตัวของพวกคนอารมณ์ดี อยู่ด้วยกันก็เฮฮากันได้ทั้งวัน แต่ถึงจะเฮฮากันมากแต่งานการก็ไม่เสีย เพราะก็ประสบความสำเร็จกันทั้งในเรื่องการแข่งขัน และด้านการเรียนก็เรียนกันจบสี่ปีเกือบทุกคน

ผมชอบความอบอุ่นของชุมนุมรักบี้ในช่วงที่ผมเรียนอยู่มากๆ จนแทบจะเรียกได้ว่าเป็นที่ๆผมใช้เวลาในช่วงเรียนคลุกคลีอยู่ด้วยเกือบตลอด แม้ผมจะไม่ได้เป็นนักกีฬาที่มีฝีมือเก่งกาจ อะไรเมื่อเทียบกับเพื่อนๆ แต่ก็เข้ามาฝึกซ้อม มาเก็บตัวด้วยอยู่ตลอด ที่มาก็ไม่ได้มาเพราะชอบกีฬาชนิดนี้เท่าไหร่ เพราะรักบี้เป็นกีฬาที่ต้องปะทะ แต่ผมมันตัวเล็กและก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไร แต่ที่มาซ้อมมาเก็บตัวก็เพราะชอบอยู่กับเพื่อนๆที่ชุมนุม

เวลาที่ผมถูกถามว่าสิ่งที่ผมประทับใจที่สุดในชีวิตมหาลัยคืออะไร? ผมมักจะนึกออกได้ทันทีว่าก็คือการที่ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของทีรักบี้ธรรมศาสตร์ที่ได้แชมป์รักบี้ในระดับอุดมศึกษาของประเทศ โดยในการแข่งครั้งนั้นเราเป็นม้ามืดของทัวร์นาเมนต์ล้มทีมที่ยิ่งใหญ่ในขณะนั้นอย่างจุฬาลงได้ในนัดชิง

การประสบความสำเร็จที่เกิดจากการร่วมมือร่วมใจกับเพื่อน มันมีเสน่ห์มากกว่าการทำอะไรสำเร็จอยู่คนเดียวจริงๆ เพราะมันจะรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นและสนุกสนานที่เกิดขึ้น รวมถึงความผูกพันเมื่อต้องผ่านอุปสรรคต่างๆไปด้วยกัน

มาเล่าเรื่องงานเลี้ยงกันต่อดีกว่า พอหลังจากแข่งรักบี้เสร็จน้องๆก็เชิญพวกรุ่นพี่ไปร่วมงานเลี้ยงของชุมนุม โดยมีอาหารและเบียร์ให้พวกพี่ๆตะบันกันได้อย่างไม่ยั้ง

ผมกับเพื่อนก็เลยได้มารวมตัวกันเล่นปัญญาอ่อนอีกครั้ง โดยแรกๆก็ยังไม่ค่อยออกลายกันเท่าไหร่เนื่องจากมีพวกพี่แก่ๆมาร่วมงานอยู่ โดยเฉพาะดันมีรักษาการรัฐมนตรีพงษ์เทพ เทพกาญจนา มาร่วมด้วย ก็เลยเกร็งๆกันไม่กล้าทำอะไรมาก

แต่พอพวกพี่อาวุโสเริ่มกลับกันไปแล้วนั่นล่ะ พวกรุ่นผมรวมถึงรุ่นพี่ที่ใกล้ๆกันที่เริ่มได้ที่แล้วก็เลยเล่นกันซะมันส์โดยการร้องคาราโอเกะรวมถึงแดนซ์กันเต็มที่ ก็เหลือเชื่อเหมือนกันที่แต่ละคนที่แยกย้ายกันไปทำงานต่างที่กัน ซึ่งบอกได้เลยว่าก็ต้องเผชิญกับภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่มากมาย เรียกได้ว่าต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ จะกลับมารวมตัวสนุกสนานเฮฮากันได้อีกครั้งเหมือนวันเก่าๆไม่มีผิด

ผมเองในปัจจุบันก็ต้องมาทำหน้าที่เป็นคนสอนหนังสือให้นักเรียนที่โตแล้ว ก็ต้องมาอยู่ในภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนที่เป็นผู้ใหญ่กว่ามากๆ บรรยากาศแบบนี้เรียกได้ว่าห่างหายไปนานมากๆ พอได้กลับมาเจออีกครั้งก็คิดถึงมันจริงๆ
คนเราพออยู่ในภาวะแวดล้อมที่ต้องรับผิดชอบสิ่งต่างๆมากมาย ก็จริงจังกับชีวิตไปมาก จนลืมเว้นที่ไว้ให้ตัวเองได้มีความสุขกับเพื่อนๆเหมือนตอนเป็นเด็ก

มาได้เจอกับเพื่อนๆชุมนุมรักบี้ครั้งนี้ ก็คงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะต้องห่างกันไปนานเพราะไปเรียน ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่ผมจะได้เก็บความทรงจำที่มีความสุขแบบนี้ไว้คอยนึก และเตือนให้ตัวเองนึกถึงมันในอนาคตว่า สุดท้ายแล้วความสุขมันก็อยู่ใกล่แค่เอื้อม ไม่ต้องไปฝ่าฝันอะไรมากมายเพื่อให้ได้ชื่อเสียงเงินทองมันก็มีความสุขกันได้

5 comments:

Anonymous said...

กระต่ายน้อย จะไปแล้ว เราคงคิดถึงมากๆเลยนะ แต่ไปเพื่ออนาคต ขอให้ประสบความสำเร็จนะจ๊ะ โชคดีจ้า

Anonymous said...

ดีใจด้วยนะที่คุณกระต่ายน้อยมาความสุข
มีความทรงจำที่ดีดีก่อนไปเรียนต่อ
หวังว่าเราก็คงเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำที่ดีดี
ของกระต่ายน้อยนะ

กระต่ายน้อยจะไปแล้ว เศร้าจัง =(

Anonymous said...

แวะ เข้ามาแอบดูบ่อยๆ แต่ไม่เคยตอบเลย

เสียดายที่พี่ไม่ได้ไปรับน้องกอไผ่ที่ผ่านมา คราวนี้ไปที่สามร้อยยอดอีกล่ะ ผมยังจำได้เลยว่าชิงธงที่เนี่ยแหละที่ผมถูกพี่จับทุ่มปางตาย เหอๆๆๆ

ยินดีด้วยเรื่องเรียนต่อนะครับ

Anonymous said...

ห้องทำงานของพี่ที่คณะเคยเป็นห้องของอาจารย์ที่ดีคนนึง แต่ตอนนี้เค้าไปเรียนต่อที่ออสเตรเลีย แต่อีกไม่นานก็คงจะกลับมาสอนอีกครั้ง (ห้องนี้ดี อยู่แล้วได้ไปเรียนต่อ)
พี่ก็ต้องตั้งใจเรียนนะ แล้วรีบกลับมาทำงานที่คณะเหมือนเดิม กว่าพี่จะกลับมา เราก็คงเรียนจบแล้ว อาจจะไม่เจอกันอีก

ฝากคณะเศรษฐศาสตร์ของเราด้วย บรรยากาศในคณะเดี๋ยวนี้แปลกไป ไม่ค่อยเหมือนสถานศึกษาเข้าไปทุกวัน คล้ายๆสภาฯ มีพรรคมีฝ่าย ถ้าผู้ใหญ่งัดกันไปมา นักศึกษาก็แย่ อาจารย์ผู้น้อยก็แย่ คณะเราคนเขียนจดหมาย ร่างเอกสารเยอะ หรือคนทำงานจริงจังน้อยเกินไป ??

ต่อไปนี้เป็นคำถามที่ต้องการคำตอบ
1. พี่ไปเรียนอะไร แล้วอีกกี่ปีจะกลับ
2. พี่ได้ทุนรึป่าว แล้วทุนอะไร
3. เดินทางเมื่อไหร่
4. คุณเธียรที่ชอบตีกอล์ฟเป็นอะไรกับพี่ ไม่แน่ใจชื่อเล่นว่าอะไร ยังไงก็บอกด้วย


โชคดีนะครับ

Anonymous said...

เจ้าหญิงหอย


สวัสดีค่ะ ฉันไม่รู้จักคุณเท่าไหร่นัก แต่ก็เคยได้ยินชื่อบ้าง ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจเปิด(ต้องขอโทษด้วยค่ะ) ขึ้นมา แต่ด้วยความบังเอิน ทำให้ฉันได้ อ่านบทความต่างๆที่คุณเขียน ฉันก็รู้สึกว่ามันน่า รัก เหมือนว่าเราได้อ่าน รู้ชีวิตของคนคนนึง หวังว่าคงไม่ว่านะค่ะ มันก็ทำให้แนได้อารายใหม่ๆๆขึ้นมาเหมือนกัน ขอบคุณนะค่ะ ได้ข่าวว่าคุณจะไปต่อโท ก็ขอ ให้โชคดีค่ะ...เจ้าชายน้อย