เคยดูเดอะเมทริกซ์ภาคแรกไหม?
ตอนพระเอกถูกให้เลือกว่าจะกินยาเม็ดไหนในสองเม็ด เม็ดหนึ่งเพื่อตื่นจากโลกสมมุติที่เดอะเมทริกซ์สร้างขึ้น แล้วพบกับความจริงที่โหดร้ายว่าโลกนั้นถูกครอบงำอยู่โดยเครื่องจักรขนาดยักษ์ กับอีกเม็ดหนึ่งเพื่อกลับไปใช้ชีวิตอย่างสุขสบายต่อไปบนความไม่รู้
คิดไปแล้วมันเหมือนกับทางเลือกที่เราต้องเจอในการเป็นนักวิชาการ หรือการเป็นคนที่ตั้งคำถามมากมายกับสังคม
ในแง่หนึ่งเราอาจไม่ต้องทำงานวิชาการ ไม่ต้องตั้งคำถามก็ได้ แล้วก็ใช้ชีวิตอยู่ต่อไปโดยไม่ต้อง "กลุ้มใจ" กับปัญหาต่างๆในสังคม
แต่ในอีกแง่หนึ่งเราก็เลือกแล้ว ที่จะพยายามไขว่คว้าหาทางทำอะไรสักอย่างให้ไอ้ที่เราเห็นอยู่รอบตัวมันดีขึ้น ยิ่งเรียนไปก็ยิ่งเห็นปัญหาต่างๆมากมาย นู่นก็เป็นปัญหาแบบหนึ่ง นี่ก็เป็นปัญหาอีกแบบหนึ่ง
มันเหมือนเราเลือกที่จะกินยา แล้วตื่นขึ้นมาพบความจริงที่โหดร้ายแบบในเดอะเมทริกซ์
อาจจะต่างกันตรงที่เรา (ผู้เขียน) หล่อน้อยกว่าคีนูนิดนึง แล้วก็ไม่ใช่เดอะวัน แต่เอาเถอะ นั่นไม่ใช่ประเด็น
ประเด็นคือ สงสัยเป็นหน้าที่ที่เราเลือกแล้ว (ว่ะ) ที่จะต้องตื่นจากมายาคติ และทรมานกับความเป็นจริง
Friday, February 02, 2007
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
6 comments:
โห มันโหดร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ
แต่ชีวิตคือการต่อสู้
และการได้ออกจากเมทริกซ์
ก็คือการได้ใช้ชีวิตอย่างอิสระ
ไม่ต้องถูกควบคุมจากเครื่องจักรอีกต่อไป
แม้ว่าโลกที่ออกมาจะเลวร้าย
ไม่น่าอยู่ ลำบากลำบน
แต่มันก็มีอิสระ
แวะมาทักทายค่ะ
^^ถึงความจริงที่พี่เลือกแล้วมันอาจจะดูโหดร้ายกว่าสิ่งที่คนอื่นเลือก
แต่ถ้าพี่เลือกและทำสิ่งนั้นด้วยใจรัก มันก็คงไม่ทรมานใจสักเท่าไหร่ แม้ว่าเราต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริงที่โหดร้ายก็ตามที
สู้ สู้คะ บางทีความจริงที่เราเจอมันอาจจะสนุกกว่า ท้าทายกว่า โลกแห่งความฝัน
ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
มันก็จริงนะคะที่เวลาที่เราเป็นนักวิชาการแล้ว มันมีปัญหาให้มองมากมาย
แต่มันต่างกันตรงที่ว่า โลกใบนี้ไม่ใช่ matrix คนไม่ได้นอนอยู่เฉยๆแล้วถูกโปรแกรมให้ตื่นขึ้นมาพบกับโลกที่สวยงามกว่าความเป็นจริง
แต่ปัญหามันมีอยู่จริง...
คนต้องทุกข์ทรมานกับปัญหาที่มีอยู่กันจริงๆ ศุกข์ เศร้า แย่ หรือ อยู่ในภาวะที่เลือกไม่ได้จริงๆ
แทบอยากจะให้ปัญหาที่ไม่ถูกบรรเทามันเป็นภาพลวงตาด้วยซ้ำ ไป
เพียงแต่ว่านักวิชาการจะเลือกจับเอาปัญหาไหน ที่เป็นของคนอื่น หรือที่เกี่ยวกับตัวเอง มาทำให้มันกระจ่างขึ้น...และกลายเป็นปัญหาที่(ทุกข์)อยู่ในใจเราแทน
แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าความทรมานของนักวิชาการ อาจจะเทียบไม่ได้กับความทรมานของจริง สำหรับคนที่ต้องเผชิญกับมันบนโลกแห่งความเป็นจริง
sweet_บุญผ่อง
Just wanna say I love the movie a lot, esp. the 1st part.
Like one of the quote...
Morpheus: "There's a difference between knowing the path and walking the path."
It happens a lot in life that sometimes you know sth is right there but you just dont know how to get it.
"อาจจะต่างกันตรงที่เรา (ผู้เขียน) หล่อน้อยกว่าคีนูนิดนึง แล้วก็ไม่ใช่เดอะวัน แต่เอาเถอะ นั่นไม่ใช่ประเด็น" --> ฮามาก ปล่อยก๊ากออกมาเต็มๆเลย แบบอารมณ์กำลังซีเรียสแล้วหักมุม.. เด็ดนะพี่
เลยลืมเลยว่าจะคอมเม้นท์อะไร มัวแต่นั่งขำ..
Objects in the rear view mirror may appear closer than they are
Post a Comment