Monday, October 20, 2008

ภาพลวงตาของชะตากรรม

เราจะต้องสละชีวิตเพื่อชาติ

เราจะต้องทำลายสิ่งที่เป็นภัยต่อชาติ

เราจะต้องปกป้องชาติจากคนเลว

สิ่งเหล่านี้เป็นชะตากรรมของเรา

.......................


ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่เราต้องแบกความเป็นชาติเอาไว้เป็นส่วนหนึ่งของชะตากรรมของเรา

ทั้งที่ชะตากรรมเหล่านี้กลับถูกกำหนดได้ ผ่านการปลุกปั่น ผ่านการแย่งชิงอำนาจ

แต่เราก็กลับยอมรับมันเป็นชะตากรรมโดยไม่มีข้อแม้

ยอมสละชีวิตเพื่อมัน

หรือแม้กระทั่งยอมทำร้ายคนอื่นเพื่อมัน

เพื่อชะตากรรมที่...สุดท้าย อาจเป็นแค่สิ่งประดิษฐ์ทางการเมืองนี่นะ

Friday, October 17, 2008

People Alliance for What?

a) For Democracy



(...............NO!)


b) For Military

(..........May be???)

c) For Money

(.......Possible?)


d) For Middle Class Interest

(........Really?)

e) For Monarchy

(Ahhhhhhh! @$@#W^%$#YG)

Friday, October 10, 2008

Time to stop taking things at face value

แม้ว่าเมืองไทยเราจะชอบอะไรง่ายๆ สั้นๆ แบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกอย่างที่สั้นๆ ง่ายๆ จะดีเสมอไป

บางทีเราก็ต้องการอะไรที่ ลึก มีรายละเอียดบ้าง

โดยเฉพาะเมื่อมีความขัดแย้งทางการเช่นในปัจจุบัน

........................

ในเมืองไทย หลายๆครั้งที่คำต่างๆถูกใช้มาแบบสั้นๆ ด้วยเหตุผลแบบสำเร็จรูป

สมานฉันท์ สามัคคี

รักชาติ เสียสละเพื่อชาติ

คำเหล่านี้มาแบบสำเร็จในตัวมันเอง อะไรก็ได้ที่เป็นไปตามคำกล่าวเหล่านี้ ย่อมน่าปฎิบัติตาม น่าใช้เป็นแบบอย่าง

"_______".........ย่อมดีเสมอ

ลองเติมคำข้างต้นลงในช่องว่าง แล้วคุณก็จะได้คำกล่าวอ้างต่างๆ เกือบทั้งหมดที่มีอยู่ในการเมืองไทย

ที่น่าเศร้าคือ เราไม่เคยไปไกลกว่าคำเหล่านี้

ไม่เคยคิดให้"ลึก" ไม่ให้ความสำคัญกับรายละเอียด สภาวะแวดล้อม

ไม่ตั้งคำถามกับความสำเร็จรูปที่มีอยู่

ว่ามันสะท้อนสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสังคมแค่ไหน

........................

สถานการณ์การเมืองในปัจจุบันก็เช่นกัน

หลายๆคำสำเร็จรูป ควรต้องถูกตั้งคำถามอย่างยิ่ง

"ภาคประชาชน" ส่งผลดีต่อประชาธิปไตยเสมอ จริงหรือ

"ความรุนแรง" ถูกผูกขาดโดยรัฐ จริงหรือ

หรือแม้กระทั่ง

"การเมือง" เป็นเรื่องของการหาคนดีมาบริหารประเทศ จริงหรือ

บางทีเราอาจจะได้พบกับคำตอบที่ไม่สำเร็จรูป อย่างที่มีอยู่อย่างเกลื่อนกลาดตามสื่อหรือแถลงการณ์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยก็ได้

Tuesday, October 07, 2008

back to Oxford

ขอโทษที่หายไปนานอีกแล้ว

พอดีกลับเมืองไทย เลยหยุดพักผ่อนยาวเสียสามเดือน

รอจนการเมืองไทยประทุ จึงได้ฤกษ์หนีกลับมาอังกฤษ และได้กลับมาเขียนบล้อกอีกครั้ง

แล้วพบกัน

Sunday, June 29, 2008

ที่หนึ่งไม่ไหว ขอแสดงความเสียใจกับมิชาเอล บัลลัค

ว่ากันว่าในเกมฟุตบอลไม่เคยมีใครต้องการเป็นที่สอง

ไม่เคยมีใครใส่ใจกับรองแชมป์ แชมป์เท่านั้นที่จะถูกจดจำ

แต่แล้ววันนี้ เขาคนนี้ มิชาเอล บัลลัค ก็ต้องประสบกับชะตากรรมเดิมๆอีกครั้ง

เพราะเขา...คงเกิดมาเพื่อเป็นที่สองอย่างแท้จริง



...............

เมษายน 2545

ทีมไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ภายใต้การนำทัพของบัลลัค ผู้เล่นที่กล่าวได้ว่าดีที่สุดในทีม กำลังลุ้นแชมป์อยู่มากมาย
ทีมกำลังนำห่างอยู่ในลีกบุนเดสลีกา และยังได้เข้าชิงบอลถ้วยเยอรมันคัพ

ที่สำคัญ เลเวอร์คูเซ่น ยังได้เข้าชิงยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกอีกต่างหาก

แต่แล้วเรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

อยู่ดีๆทีมของบัลลัคก็ช็อตไปในบอลลีค พลาดท่าโดนโบรุสเซีย ดอร์ทมุนแซงได้แชมป์ไปในโค้งสุดท้าย

มิหนำซ้ำ ยังพ่ายแพ้บอลเยอรมันคัพไปอย่างหมดท่าให้กับชาลเก้ 04

ที่แย่ที่สุดก็คือ เลเวอร์คูเซ่น ยังได้ฝันสลาย พ่ายแพ้นัดชิงยูฟ่าแชมป์เปี้ยนส์ลีกไปให้กับรีล มาดริด ด้วยน้ำมือของซีเนอดีน ซีดาน ซึ่งกำลังเล่นฟุตบอลได้ตรงตามนิยามของของคำว่า "ขั้นเทพ" อยู่ในขนะนั้น

เอาล่ะครับ สามรองแชมป์เข้าไปแล้ว

แต่เดี๋ยวก่อน เรื่องยังไม่จบแค่นี้

กรกฏาคม 2545 ทีมเยอรมนีที่มีบัลลัคเปนผู้เล่นที่ดีที่สุดก็ได้เข้าสู่รอบชิงฟุตบอลโลก โดยพบกับบราซิล

หลังจากนั้นตำนานความผิดหวังของบัลลัคก็เกิดขึ้นสมบูรณ์เป็นครั้งแรก

แม้เขาจะถูกแบนไม่ได้ลงเล่นในนัดชิง

แต่ก็นั่นล่ะ ดวงที่สองมันแรง และเยอรมันก็พ่ายแพ้ไปให้กับบราซิล

ในปี 2545 บัลลัค จึงโกย "รองแชมป์" ไปทั้งหมด 4 รายการด้วยกัน

เป็นนักฟุตบอลที่ได้รองแชมป์มากที่สุดในปีเดียวกันคนหนึ่ง

.............แต่เดี๋ยวก่อนครับ ท่านผู้ชม เรื่องยังไม่จบเท่านี้

เมษายน 2551

หกปีผ่านไป บัลลัคได้เดินทางผ่านร้อนผ่านหนาวจนมาอยู่ที่ประเทศอากาศแย่ อาหารห่วย เกาะที่ไม่มีซีฟู้ด และมหาอำนาจที่ต้องล่าอนานิคมเพราะไม่อยากอยู่ประเทศตัวเองกัน...อังกฤษนั้นเอง

เชลซีของบัลลัคก็กำลังลุ้นแชมป์อยู่มากมาย

เชลซีได้เข้าชิงแชมป์ลีกคัพกับสเปอร์ ที่มที่ว่าไปแล้วก็อ่อนกว่ามาก

ฟอร์มในบอลลีกก็ไปได้ดี หายใจรดต้นคอแมนยูอยู่โดยมีคะแนนเสมอกัน ต่างแต่เพียงแค่ลูกได้เสีย

ที่สำคัญ บัลลัคยังได้มีโอกาสแก้ตัวในแชมป์เปี้ยนส์ลีกนัดชิงกับแมนยู

และแล้วพลังรองแชมป์ของบัลลัคก็เปล่งประกายอีกครั้ง

เชลซีพ่ายสเปอร์ไปในนัดชิงลีกคัพแบบโคตรโชคร้าย บอลเด้งกระดอนไปโดนหน้าคู่ต่อสู้เข้าโกลแพ้ไปเฉยเรย

และก็ยังไล่ตามแมนยูไม่ทันในลีก แมนยูจึงได้แชมป์ไปอย่างฟลุคๆ (เพราะทีมที่ดีที่สุดจริงๆคืออาร์เซนอล)

สองรองแชมป์ล่วงหน้าไปแล้ว จนมาถึงนัดชิงแชมป์เปี้ยนส์ลีก

ท่านผู้ชมครับ คงไม่ต้องสืบว่าเกิดอะไรขึ้น

เสมอกันในเวลา ต้องดวลจุดโทษ

โรนัลโด้ของแมนยูพลาดไปก่อนหนึ่งลูก ทำให้เชลซีขึ้นนำ เหลือเพียงยิงเข้าในลูกสุดท้ายก็จะชนะทันที

ในวินาทีที่ จอห์น เทอร์รี่ กัปตันทีมเชลซี ก้าวไปยิงจุดโทษลูกสุดท้ายเพื่อให้ทีมชนะนั้น ไม่มีใครนึกจริงๆว่าเขาจะพลาด เทอร์รี่ก้าวเข้าไปด้วยสีหน้ามั่นใจมากๆ

เทอร์รี่วิ่งเข้าหาลูกฟุตบอลอย่างช้าๆ แฟนๆเชลซีเตรียมฉลอง บัลลัคเองคงคิดในใจว่า "กรูจะล้างอาถรรพ์ได้เแล้วเฟร้ย"

อุแม่เจ้า! ประดุจดั่งมีคนเอากล้วยหอมจอมซนให้เทอรรี่สวมใส่แทนอดิดาส!!!

เทอร์รี่ลื่่นครับ ยิงออกไปเฉยเลย ผมดูอยู่ยังงง มันลื่นได้ไงวะ

แล้วแมนยูก็ชนะไปในการดวลจุดโทษต่อหลังจากนั้น

สามรองแชมป์ แกรมด์สลิ่มกลับมาให้บัลลัคได้ลิ้มรสอีกครั้ง

..................แต่เดี๋ยวก่อน อีกครั้งที่เรื่องยังไม่จบแค่นี้

เพราะในวันนี้ วันที่ 29 กรกฏาคม 2551

ทีมเยอรมนีภายใต้การนำทัพของบัลลัคก็ได้ฝ่าฝันมาจนถึงรอบชิงชนะเลิศของฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป

โดยได้พบกับทีมสเปนในนัดชิง

ทุกท่านคงทราบดีแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

สเปนก็ชนะไป

และบัลลัคก็ได้รองแชมป์ไปอีกครั้ง

รวมเป็นสี่รองแชมป์ ครบถ้วนเท่าหกปีที่แล้วเดี้ยะๆ

.......................

เขาคนนี้นี่ล่ะครับ ที่เหมาะกับเพลงของวงไอน้ำมากที่สุด

"ที่หนึ่งไม่ไหว ฉันเต็มใจขอเป็นแค่ที่สอง"

ขอคารวะนายจริงๆ มิชาเอล บัลลัค แม้เขาจะว่ากันว่าไม่มีใครจดจำรองแชมป์ แต่เราจะจดจำนายไว้แน่นอน

...ว่านายคือที่สอง...ตลอดกาล

...ขอเชิญทุกท่านร่วมร้องเพลง "ที่หนึ่งไม่ไหว" ให้กับมิชาเอล บัลลัค



...และขอเชิญชม "ลูกลื่น" ของ จอห์น เทอรี่ อีกครั้งหนึ่ง

Thursday, June 26, 2008

ถุงขนม(ราคาแพง)ของ(ทนาย)คุณทักษิณ

ถุงขนมราคาสองล้าน แหม่ อยากให้มีคนหยิบผิดมาให้บ้างจัง

จะรีบชมเลยว่า ขนมอร่อยมากๆ

และถ้ามาขอคืนจะรีบบอกเลยว่า กุกินหมดแระ

...........

จะว่าไปคดีนี้ก็เป็นคดีประวัติศาสตร์คดีหนึ่ง

หลายคนคงยังสงสัยว่ามันจัดฉากหรือเปล่า...

ผมว่าไม่นะ

หนึ่ง ถ้าจัดฉาก คนเล่นคงลงทุนกันมากพอดู เล่นจริงติดคุกจริง โดยเฉพาะถ้าพิจารณาว่าคนเล่นละครหลักเป็นถึง ญาติ ของคุณหญิงพจมาณ

ลองคิดกันดูเล่นๆ ว่าถ้าเป็นละคร อีกฝ่ายจะจัดฉากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ได้อย่างไร ผมว่าความเป็นไปได้มีน้อยมากๆที่จะเป็นการจัดฉาก

สอง ว่าก็ว่าเถอะ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมได้ยินถึงพฤติกรรมการติดสินบนศาลของนักการเมืองไทย โดยเฉพาะคุณทักษิณ ถ้าจำกันได้ สมัยมีคดีเขาอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ ก็มีข่าวว่ามีการติดสินบนผู้พิพากษา

ทักษิณเองก็ไม่ใช่คนขาวจั้วอะไร ทำธุรกิจผ่านการผูกขาดโดยขอสัมปทานจากรัฐ เรื่องแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับเขา

สาม หลายคนคิดว่ามันโง่เกินไปที่จะติดสินบนเอาให้ตัวเองถูกจับง่ายๆแบบนี้ ผมคิดว่าจุดประสงค์ของสินบนนี้ ไม่ได้ทำเพื่อหวังผลใหญ่ แต่แค่หวังจะ "หล่อลื่น" กระบวนการแทรกแซงการตัดสินเท่านั้นเอง

มันเป็นเงินสองล้านจิ๊บๆ ที่เป็นค่าขนมสำหรับเจ้าหน้าที่ศาลเท่านั้น ผมว่าจริงๆคงมีการติดสินบนมากกว่านี้ โดยเฉพาะในระดับที่สูงขึ้นไปอีก

แต่พอดีมันซวยหน่อย ผมว่าเผลอๆ เจ้าหน้าที่ศาลคนนั้นอาจไม่ตั้งใจด้วยซ้ำที่จะเอาถุงขนมไปหาผู้บังคับบัญชา

ลองคิดดูดิ ว่าถ้าเขาซื่อน้อยกว่านี้หน่อย เปิดออกมาดูซักนิดว่าเป็นอะไร เขาอาจจะตัดสินใจเก็บไว้เองก็ได้

ผมว่า งานนี้ก็ซวยหน่อยละกันนะคร้าบ คุณทนายทักษิณ

.............

หลายๆคนบอกว่้าคนฉลาดอย่างคุณทักษิณไม่น่าจะทำอะไรโง่เขลาแบบนี้ได้...

ผมคิดว่า ทักษิณนี่ล่ะครับ คนที่การตัดสินใจมีปัญหา โดยเฉพาะเวลาที่อยู่ภายใต้ภาวะกดดัน

ลองมานั่งทบทวนดู มีสองสามกรณีที่ผมขอยกเป็นตัวอย่าง

หนึ่ง การตัดสินใจขายหุ้นชิน ในช่วงเวลาที่ตัวเองกำลังโดนประท้วงอยู่

ผมว่านั่นคิดจุดเปลี่ยนสำคัญเลยล่ะ เป็นจุดที่ทำให้หลายๆคนรู้สึก "รับไม่ได้" กับเขา

แล้วมันทำแบบนั้นทำไมฟระ ในช่วงเวลาที่ตัวเองก็โดยจ้องจัดการอยู่โดยคู่ต่อสู้ แถมคู่ต่อสู้ยังเริ่มอ่อนกำลังลงแล้วอีกต่างหาก

เหมือนแข่งบอลแล้วนำอยู่ พอใกล้หมดเวลา เปลี่ยนกองหลังออก เอาศูนย์หน้าลงมาเพิ่ม

แถมกองหลังที่เหลืออยู่ยังเป็นบ่ออีก

นำๆอยู่ดีๆ กะให้แพ้ไปเลย

ผมเองยังไม่เข้าใจ

สอง การเอาสมัครมาเป็นนายก

ผมว่านี่เป็นปัญหาที่ทักษิณกลุ้มใจอยู่ทุกวันนี้

สมัครดูเหมือนจะทำตัว ลอยๆ อย่างชัดเจน กรุมานั่งทำกับข้าว กวนตีนสื่อ และจงรักภักดี ก็พอแล้ว

ส่วนอื่นๆ กรุไม่เกี่ยว ปวดหัว ไม่ทำ

พรรคของกรุเหรอ ก็ม่ายช่าย อยากตีกันก็ตีกันไป อยากแย่งกันก็แย่งกันไป กรุม่ายรู้ ม่ายสน

คุณทักษินลงเงินมาเยอะ คงปวดหัวกับปัญหาภายในพรรคอยู่พอดู ก้วนเหล่าต่างๆก็ใช่ปรองดอง

ยิ่งระดับหัวหน้าพรรคเป็นแบบนี้ เปิดการ์ดให้คู่แค้นต่อยตลอด

ผมก็ยังไม่เข้าใจ

สาม การเปลี่ยนผู้จัดการทีมที่แมนซิตี้

ในช่วงเวลาที่แฟนๆกำลังดีใจกับการที่ทีมได้ขึ้นถึงอันดับสูงสุดในรอบหลายปี

มีนักเตะที่มีชื่อเสียงหลายๆคนข้ามาร่วมทีม ผู้จัดการทีมก็โด่งดัง มาอยู่แค่ปีเดียวก็ทำได้ขนาดนี้

คุณทักษิณก็ไล่ผู้จัดการทีมออกเฉย

ก็เห็นว่าขัดแย้งกันเพราะโดนแข็งข้ออ่ะนะ แต่การทำแบบนี้่โดยไม่สนใจเสียงแฟนบอลเลย มันทำให้ความนิยมในตัวคุณทักษิณติดลบไปเลย

ที่แย่กว่านั้น เขาเอาใครมาแทนครับ นักเตะในตำนานของคู่แค้นร่วมเมือง

จะว่าดีกว่าคนเก่า ก็ไม่เลย ไม่มีอะไรเทียบคนเก่าได้

สำหรับแฟนๆแมนซิตี้ อาจจะรู้สึกเหมือนคนไทยอยู่ก็ได้

คนไทย: ไม่เอาทักษิณ ก็เอาสมัครไป

แฟนๆแมนซิตี้: ไม่เอาทักษิณ ก็เอาพี่มาร์ค (ฮิวจส์) ไป

ตกลงคือพวกเราผิดแต่แรกที่กล้าตอแยกับท่านทักษิณใช่ไหมครับ ถึงได้ให้ของขวัญกับเราแบบนี้

ผมก็ยังไม่เข้าใจ

.................

ดูรวมๆแล้ว ผมคิดว่า คนที่ว่าคนฉลาดอย่างคุณทักษิณจะทำอะไรพลาดแบบนี้ได้ไง?

โปรดลองคิดดูอีกที

ผมว่าบางครั้งเขาก็ฉลาดนะ

แต่หลายๆครั้ง เขาก็ตัดสินใจประหลาดๆน่ะ เช่นสามกรณีข้างต้น

He is capable of doing something stupid!

จริงมะ?

Tuesday, June 24, 2008

รัฐบาลที่พันธมิตรต้องการเป็นแบบไหน

อ่านข่าวเรื่องการบ้านการเมืองไทยแล้วเสียจิต

ผมไม่เคยต่อต้านการเมืองบนท้องถนน และคิดว่าประชาธิปไตยทางตรงเป็นเรื่องสำคัญมากๆในการพัฒนาคุณภาพของระบบการเมือง

แต่ก็ไม่ใช่ว่าการเมืองบนท้องถนนทุกรูปแบบจะช่วยให้เกิดพัฒนาการทางการเมืองได้

การมีส่วนร่วมเรียกร้องสิทธิ เป็นเรื่องที่ทำได้อยู่แล้ว และก็ไม่ควรถูกปราบปราม

แต่ประเด็นเรื่องที่พันธมิตรเล่นในการปลุกระดมนี่สิ ที่น่าผิดหวััง

ผมไม่รู้ว่ารัฐบาลแบบที่พันธมิตรต้องการเป็นอย่างไร

ถ้าดูเอาจากประเด็นของการประท้วง...

คงต้องเป็นรัฐบาลที่รักในหลวง รักชาติ ต่อสู้เพื่อปกป้องดินแดน ยอมเสียเลือดเนื้อเพื่อกำจัดคนชั่วให้สิ้นซาก

รู้ไหมมันคล้ายอะไร...นิยายสงครามที่เราอ่านกันตอนป.สี่ไง

มันน่าผิดหวังที่การเมืองไทยวุ่นวายอยู่กับเรื่องพวกนี้

"เขาพระวิหาร หมิ่นสถาบัน ธงชาติ"

ทั้งๆที่ปัญหาเศรษฐกิจกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ข้าวปลาอาหารแพงขึ้นเกือบเท่าตัวในเมืองไทย

น้ำมันแพงขึ้นเรื่อยๆแต่กรุงเทพก็ยังไม่มีระบบขนส่งมวลชนที่ดีพอ

คนตายเป็นเบืออยู่ทุกวันในจังหวัดสามชายแดนภาคใต้

ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางรายได้สูงที่สุดประเทศหนึ่งในโลก

ปัญหาเหล่าีนี้กลับได้รับการพูดถึงน้อยมากในการประท้วงของพันธมิตร ที่ยิ่งน่าตกใจใหญ่คือคนจำนวนมากที่เข้าร่วม เขาไม่รู้สึกเอะใจกันหรืออย่างไรกับเรื่องที่ตัวเองถูกเป่าหูอยู่ทุกวัน

เขาไม่เคย "คิด" อะไรลึกไปกว่า "รักชาติ รักในหลวง" ไม่เคยสงสัยในข้อมูลที่ตัวเองได้รับเลยหรือ

การเมืองบนท้องถนนโดยทั่วไปอาจช่วยเปิดมิติใหม่ให้กับประชาธิปไตย แต่การเมืองบนท้องถนนของพันธมิตรนั้นคงต้องการเพียงแต่ให้การเมืองไทยย้อนกลับหลังไปร้อยปีไปสู่ระบอบเผด็จการโดยผู้มีศีลธรรม

ผมไม่คิดว่าพันธมิตรไม่มีสิทธิประท้วง

แต่ผมคิดว่าพันธมิตรควรปรับปรุงประเด็นที่ตัวเองประท้วง

เลิกเล่นบนความรู้สึกรักและคลั่งได้แล้ว เลิกปั้นน้ำเป็นตัวเอาหลักฐานมั่วๆมาประติดประต่อได้แล้ว

โปรดบอกทีว่ารัฐบาลจะต้องทำอะไร ไม่เอาว่าลาออก รัฐบาลมาจากการเลือกตั้ง พันธมิตรควรจะยอมรับสิทธิในการเข้าสู่อำนาจว่าชอบธรรมแล้ว

มิเช่นนั้นการเลือกตั้งจะมีไว้ทำไม

หากต้องการจะมีส่วนร่วมทางตรง ก็ควรกำหนดประเด็นการมีส่วนร่วม และควรเป็นประเด็นที่เกี่ยวกัีบสาระสำคัญในการบริหารประเทศ

ควรเป็นประเด็นที่นำไปสู่การถกเถียงที่ใช้เหตุใช้ผลได้ เป็นประเด็นที่นำไปสู่การแก้ปัญหาที่รุมเร้าประเทศอยู่ในตอนนี้ได้

ผมว่าถึงเวลาแล้ว ที่เราจะมีสิทธิในการบอกพันธมิตรบ้าง

บอกแบบดังๆพร้อมๆกันว่า เราไม่ซื้อเรื่องแบบที่นายพยายามปลุกระดมอยู่ และนายโปรดกลับบ้านไปเถอะ ผู้คนเขาเบื่อเต็มทีแล้ว

สมัครมันไม่ลาออกหรอก มันหน้าด้านมาได้เป็นสิบๆปีจนแก่ปานนี้ ยุทธวิธีแบบพวกนายน่ะ ไม่ระคาย!!!

ถ้าคิดว่าคอร์รัปชั่นมันหนักหนาเกินกว่าจะรับได้ละก็ มุ่งสนับสนุนให้เกิดการตรวจสอบจากองค์กรอิสระ และภาคประชาชน ดีกว่า

ไปพัฒนากลไกพวกนั้น สร้างระบบ ไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่ัพวกนายว่าโง่ดักดานรักทักษินนั้นล่ะ ลองถามเขาดูสิ ว่าทำไมเขาถึงคิดไม่เหมือนนาย

ถ้าไปไม่ได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ การเมืองของพันธมิตร ก็เหมือนกับการลากสังคมไทยทั้งหมดถอยหลังลงคลองไปดีๆนี่เอง